นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับบริษัท จีจีเอฟ(ไทยแลนด์) จำกัด กรณีทำสัญญาเช่าไซโลกับองค์การคลังสินค้า(อคส.)อย่างไม่โปร่งใสและยกเลิกสัญญาในที่สุดว่า เมื่อวานนี้(25 ม.ค) กรมฯ ได้ส่งหลักฐานความผิดของบริษัทดังกล่าวให้แก่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจในข้อหาย้ายสำนักงานโดยไม่แจ้งให้ทราบ ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 70,000 บาท
ส่วนความผิดฐานให้คนไทยเป็นผู้ถือหุ้นแทน(นอมินี)นั้น ยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปความผิดดังกล่าวได้อย่างชัดเจน เพราะกรมฯ มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเพียงเรียกบริษัทฯ มาให้ถ้อยคำและให้ส่งเอกสารตามที่ร้องขอ หากไม่ดำเนินการจะมีโทษเพียงปรับครั้งละไม่เกิน 5,000 บาทเท่านั้น แม้บริษัทฯ จะให้ความร่วมมือแล้วระดับหนึ่ง แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนระบุว่าบริษัทฯ หรือผู้ถือหุ้นที่เป็นคนไทยมีพฤติกรรมเป็นนอมินีตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวอ้าง
"สิ่งที่ท่าน รมช.อลงกรณ์ แถลงข่าวว่าจีจีเอฟเป็นนอมินีนั้น เป็นข้อมูลจาก DSI ที่ได้สอบสวนในเชิงลึกตามอำนาจหน้าที่ที่ DSIทำได้ และกรมได้นำข้อมูลจาก DSI ใช้เป็นแนวทางการสวบสวนของกรมฯต่อไป แต่หลังจากที่กรมขอข้อมูลหลักฐานว่าจีจีเอฟเป็นนอมินีไปยัง DSI จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารหลักฐาน จึงไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับจีจีเอฟในฐานะเป็นนอมินีได้ เพราะกรมฯ ยังตรวจสอบไม่ถึงว่าเป็นนอมินีจริงตามที่ DSI กล่าวอ้าง" นายบรรยงค์ กล่าว