นักวิเคราะห์คาดยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเดือนธ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 3%

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 27, 2010 16:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐประจำเดือนธ.ค.มีแววพุ่งสูงขึ้น หลังรัฐบาลขยายมาตรการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยการเพิ่มกรอบเวลาการลดหย่อนภาษีเงินกู้จำนองบ้านไปจนถึงกลางปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันมิให้ภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวกลับไปทรุดตัวลงอีก

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานยอดขายบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้น 3% แตะที่ 366,000 หลังในเดือนธ.ค. หลังจากที่อุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์เดือนพ.ย.ตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มาตรการนโยบายลดหย่อนภาษี 8,000 ดอลลาร์ของรัฐบาลหมดอายุลง

หนึ่งในวิเคราะห์ที่เชื่อว่ายอดขายบ้านใหม่จะพุ่งสูงขึ้นแสดงความเห็นว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนธ.ค.อาจดีดตัวขึ้นจากอานิสงส์ของการเพิ่มกรอบเวลาและการขยายวงเงินลดหย่อนภาษีเงินกู้จำนองบ้านของรัฐบาล

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านใหม่จากเดิมที่หมดอายุในวันที่ 30 พ.ย.2552 ไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย.2553 พร้อมทั้งเพิ่มเงินอุดหนุนที่ครอบคลุมถึงผู้ที่อยู่บ้านหลังเดิม ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นยอดขายบ้านของสหรัฐในช่วงเดือนต่อๆไปให้พุ่งสูงขึ้นอีก

นอกจากนี้ การประชุมเรื่องดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทยจะมีผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังตรึงดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ต่อไป ขณะเดียวกัน ก็คาดว่าเฟดอาจยุติการซื้อพันธบัตรที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันซึ่งช่วยให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองแบบคงที่ระยะ 30 ปีลดลงสู่ระดับ 4.71% ในต้นเดือนธ.ค.

อย่างไรก็ตาม สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ได้รายงานยอดขายบ้านมือสองในเดือนธ.ค.ที่ตกลง 17% แต่เมื่อพิจารณาตัวเลขตลอดทั้งปี 2552 พบว่า ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9% แตะที่ 5.1 ล้านหลัง ซึ่งนับเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 4 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ