ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งแรง หลัง FED ระบุเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 28, 2010 07:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) โดยดอลลาร์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากเศรษฐกิจของหลายประเทศในยุโรปยังอ่อนแอ โดยเฉพาะกรีซ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.38% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4020 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4073 ยูโร/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้น 0.44% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.010 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.620 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.34% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0497 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0461 ฟรังค์/ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6163 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6141 ปอนด์/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.50% แตะที่ 0.8938 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.8983 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.30% แตะที่ 0.7053 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7074 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นหลังจากคณะกรรมการเฟดกล่าวภายหลังการประชุมเมื่อคืนนี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานเริ่มทุเลาลง ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวปานกลาง นอกจากนี้ ดอลลาร์ได้แรงหนุนเมื่อเฟดและธนาคารกลางรายใหญ่อื่นๆระบุว่าจะยุติโครงการปล่อยกู้ดอลลาร์ฉุกเฉินในวันที่ 1 ก.พ.

ขณะที่ค่าเงินยูโรดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในยุโรป โดยเฉพาะกรีซ โดยเมื่อวานนี้หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า รัฐบาลกรีซกำลังโน้มน้าวจีนให้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลของกรีซมูลค่าสูงถึง 2.5 หมื่นล้านยูโร หรือ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะระดมทุนเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่มีอยู่เกือบ 13% ของตัวเลขจีดีพี และสูงสุดที่สุดในบรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จนทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูยื่นมือเข้ามาตรวจสอบตัวเลขรายรับจากการจัดเก็บภาษีและงบประมาณการใช้จ่ายของกรีซ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.ปี 2552 ร่วงลง 7.6% แตะที่ 342,000 ยูนิต จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 370,000 ยูนิต และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 370,000 ยูนิตในเดือนธ.ค. นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2552 โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีไตรมาส 4 ของสหรัฐ จะขยายตัว 4.6% ทำสถิติขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 4 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ