นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า ธปท.ยืนยันการเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้ายเพื่อให้การไหลเข้า-ออกของเงินทุนมีความสมดุล ขณะที่จะมีการผ่อนหลักเกณฑ์การปริวรรตเงินตราเพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเอกชนบริหารความเสี่ยงได้ดี โดยเตรียมออกเกณฑ์ผ่อนคลายการไหลออกของเงินทุนในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้เพื่อรับมือความผันผวนของของเงินทุนเคลื่อนย้ายที่คาดวาจะมีมากขึ้นในปีนี้เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน
สถานการณ์การเคลื่อนย้ายเงินทุนในขณะนี้มีความแตกต่างจากปี 49 ที่ธปท.เคยนำมาตรการสำรองเงินทุนระยะสั้น 30% มาใช้ โดยในปี 49 การไหลเข้ามาของเงินทุนค่อนข้างเร็วและแรง ขณะที่ข้อมูลของธปท.ที่มีนั้นน้อยกว่าในปัจจุบันและไม่ทันกาล โดยล่าช้าไปถึง 1 สัปดาห์ ทำให้ติดตามทิศทางการไหลเข้า-ออกของเงินได้ล่าช้ากว่าปัจจุบันมาก
แต่หลังจากปี 49 เป็นต้นมา ธปท.ได้พยายามปรับปรุงเรื่องนี้ในหลาย ๆ ด้าน ทำให้สามารถติดตามการไหลเข้า-ออกของเงินทุนได้อย่างใกล้ชิดและรวดเร็วมากขึ้น โดยให้ธนาคารพาณิชย์จัดส่งข้อมูลเป็นรายวัน เป็นผลให้สามารถปล่อยเงินไหลเข้า-ออกได้อย่างเสรีมากขึ้นและมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงได้มากขึ้นกว่าเดิม
นางธาริษา กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดปริวรรตเงินตราในต่างประเทศว่า การที่เงินหยวนจะขึ้นมามีบทบาทแทนเงินดออลลาร์สหรัฐยังเป็นไปได้ยาก เพราะเงินดอลาร์มีมิติทั้งในแง่ของความลึกและความกว้างมากกว่า แต่ขณะนี้เงินหยวนก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น หลังจากรัฐบาลจีนปล่อยค่าเงินหยวนให้ผ่อนคลายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มความสำคัญของเงินหยวนจะเร็วหรือช้าแค่ไหนขึ้นกับนโยบายของทางการจีน ขณะนี้ก็เริ่มมีการเซ็นสัญญาทวิภาคีกับธนาคารกลาง 4-5 ประเทศเกี่ยวกับข้อตกลงการชำระค่าสินค้าเป็นสกุลหยวนและสกุลท้องถิ่น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะทำให้เงินหยวนยกระดับเป็นเงินสกุลหลักในตลาดการเงินโลกได้ แต่คงยังไม่สามารถมาแทนที่เงินดออลลาร์ได้ในเร็ว ๆ นี้