นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรคสอง กล่าวว่า วันพรุ่งนี้(29 ม.ค.) ได้นัดหารือกับผู้ประกอบการ 30 โครงการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งถูกศาลปกครองยกคำร้องขอออกจากมาตรการคุ้มครองชั่วคราว เพื่อเร่งหาข้อสรุปในการให้ความช่วยเหลือ โดยจะให้คำปรึกษาแก่โครงการที่จะยื่นคำร้องชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมต่อศาลปกครอง ให้คำแนะนำรายละเอียดและขั้นตอนการดำเนินการในการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(เอชไอเอ)แก่โครงการที่อยู่ระหว่างคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และโครงการอื่นๆ โดยจะเชิญตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดมาร่วมประชุมด้วย
สำหรับ 30 โครงการที่ศาลฯ ยกคำร้องนั้น เบื้องต้นผู้ประกอบการยืนยันว่า เป็นโครงการที่ผ่านขั้นตอนการจัดทำอีไอเอแล้ว และมีการเทียบเคียงกับ 11 โครงการที่ศาลฯ มีคำสั่งให้เดินหน้าได้ รวมถึงได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการก่อนรัฐธรรมนูญ 2550 บังคับใช้
"เราจะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาล 30 โครงการ และเชิญอัยการสูงสุดมาร่วมประชุมด้วย เพื่อรวบรวมคำร้องทั้งหมดและพิจารณารายละเอียดว่า โครงการที่ศาลยกคำร้องมีความบกพร่องอย่างไร และจะดูแลโครงการที่ยังไม่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลด้วยนอกเหนือจาก 30 โครงการ" นายสรยุทธ กล่าว
สำหรับ 64 โครงการที่ถูกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองให้ระงับไว้มี 42 โครงการเป็นโครงการที่อาจได้รับผลกระทบอย่างมากจากคำสั่งดังกล่าว เพราะ 10 โครงการเป็นโครงการที่ดำเนินการแล้ว อีก 9 โครงการก่อสร้างเสร็จแล้ว และ 23 โครงการ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนอีก 22 โครงการอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากเป็นโครงการที่ยังไม่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง 18 โครงการ อีก 4 โครงการไม่ดำเนินโครงการแล้ว