ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดมูลค่าตลาดมือถือโต 12.5-22.5% เพิ่มเป็น 9.5-10 ล้านเครื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 28, 2010 18:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าของยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่น่าจะมีมูลค่าประมาณ 53,000-58,500 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 12.5-22.5 จากที่หดตัวร้อยละ 17.1 ในปี 52 และยอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมจะมีประมาณ 9.5-10 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้นร้อยละ 11.5-17.5 จากที่หดตัวร้อยละ 10.5 ในปี 52

"ในปี 53 คาดว่าตลาดจะมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น น่าจะส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาด ซึ่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังจัดว่าเป็นสินค้าที่ยังอยู่ในความนิยมและยังมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง"บทวิจัยระบุ

ทั้งนี้ ตลาดที่มีการเติบโตที่ดีน่าจะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟน คาดว่าสัดส่วนมูลค่าตลาดในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 33.2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25 ในปี 52 ซึ่งมีสาเหตุมาจากราคาเครื่องที่มีแนวโน้มลดลง และผู้ผลิตเองได้มีการเปิดตัวสินค้าหลายรุ่น ตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับบน เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อต่างกัน ทำให้ฐานลูกค้าในตลาดมีจำนวนเพิ่มขึ้น

ในขณะที่สัดส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วไป (Traditional Mobile Handset) แม้ว่าสัดส่วนมูลค่าตลาดจะลดลงจากปีก่อน แต่ยังคงมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งในตลาด หรือ ร้อยละ 54.2 ลดลงจากปี 52 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 63.3 เนื่องจากราคาจำหน่ายต่อเครื่องที่ไม่แพงนัก และราคาต่อเครื่องสอดคล้องกับกำลังซื้อส่วนใหญ่ของผู้บริโภคในตลาด

สำหรับตลาด PDA (Personal Digital Assistant Phone) คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มเป็นร้อยละ 12.6ใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 11.5 เนื่องจากต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่างสมาร์ทโฟนบางรุ่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ PDA

ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปี 53 จากความต้องการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงซื้อจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 กลุ่ม คือ ตลาดเลขหมายใหม่ และตลาดเครื่องทดแทน

ตลาดเลขหมายใหม่ (New subscribers) ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 78.5 ล้านเลขหมาย ขยายตัวร้อยละ 9.0 ชะลอตัวลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 13.1 ในปี 52 อย่างไรก็ตามในจำนวนเลขหมาย 72 ล้านเลขหมายในปัจจุบันนั้น ส่วนหนึ่งจะเป็นผู้ที่มีเลขหมายโทรศัพท์มากกว่า 1 เลขหมาย สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันน่าจะมีประมาณ 35 ล้านคน ทำให้ปริมาณการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในตลาดลูกค้าใหม่น่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

และ ตลาดเครื่องทดแทน (Replacement market) ยังคงเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญและเริ่มมีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดทั้งทางด้านการใช้งานด้านความบันเทิง การออกแบบตัวเครื่องที่โดดเด่นและจูงใจ เช่น ระบบหน้าจอสัมผัสที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ และสีสันของตัวเครื่องที่มีให้เลือกมากขึ้น เป็นต้น

ทั้งนี้ การแข่งขันในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่มีความรุนแรงมากขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะการแข่งขันระหว่างผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำจากเอเชีย อย่างแบรนด์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่เริ่มเข้ามารุกตลาดในไทยอย่างหนัก ทำให้ผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำจากประเทศในยุโรปที่ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในเมืองไทย คงต้องเร่งปรับตัวตามการแข่งขันที่รุนแรง นอกจากนี้การรุกตลาดอย่างหนักของแบรนด์จากประเทศเกาหลีใต้ทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่เฮ้าส์แบรนด์ (ซึ่งเป็นแบรนด์ของผู้ประกอบการค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย) ก็คงจะต้องเตรียมรับมือเช่นกัน

แม้ว่าเครื่องเฮ้าส์แบรนด์จะมีจุดเด่นตรงที่ราคาไม่สูงนัก และคุณสมบัติในตัวเครื่องบางรุ่นใกล้เคียงกับเครื่องอินเตอร์แบรนด์ก็ตาม แต่ผู้ผลิตสินค้าจากประเทศเกาหลีใต้ จะใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่ไม่แพง รูปแบบตัวเครื่องที่ดูทันสมัย และคุณสมบัติของเครื่องสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มาเป็นจุดเด่นการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด อย่างไรก็ดีการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างผู้ผลิตสินค้าจากต่างประเทศ น่าจะส่งผลดีต่อตลาดผู้บริโภคในไทยที่จะได้เลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย มีคุณภาพที่ดี และราคาที่ไม่แพงนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ