สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำออกมา หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐไตรมาส 4 ปี 2552 พุ่งสูงขึ้นในอัตรา 5.7% ต่อปี ทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดลบ 1 ดอลลาร์ แตะที่ระดับ 1,083.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1075.0 - 1088.2 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 16.190 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.2 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,506 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 412.65 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 70 เซนต์
สัญญาทองคำ COMEX อ่อนตัวลงเพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนแห่ไปซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรา หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าประเทศอื่นๆที่อยู่ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มหมดอายุลง