นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมประจำปีของ World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค.ว่า การประชุมดังกล่าวมีหัวข้อการหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่จำเป็นต้องปฏิรูประบบการดูแลปัญหาของโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ โดยได้เรียกร้องให้ปฏิรูปองค์การสหประชาชาติ(UN) เพื่อให้เป็นองค์กรที่สามารถแก้ไขปัญหาระดับโลกได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับปัญหาสินค้าเกษตร และความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งไทยเองได้แสดงความพร้อมถึงการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา เพียงแต่ชี้ว่ายังมีอุปสรรคที่สำคัญคือการกีดกันทางการค้าสินค้าเกษตร ที่ประชุมจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ในการเจรจาการค้ารอบปัจจุบัน ควรให้ประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรสามารถเปิดตลาดสินค้าเกษตรได้มากขึ้น
"ผมได้เสนอต่อที่ประชุมถึงความพร้อมในการแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังมีอุปสรรคสำคัญคือ การกีดกันทางการค้าสินค้าเกษตร ผมคิดว่าผู้นำประเทศพัฒนาแล้ว และผู้แทนองค์กรด้านการเกษตรสำคัญ มีความเห็นตรงกันว่า ปัญหาการกีดกันสินค้าเกษตรเป็นปัญหาใหญ่ ที่หากแก้ไขปัญหาได้จะนำไปสู่การใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ดี ก่อนเข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายเคลา ชวาฟ ผู้ก่อตั้งและประธาน WEF ผู้จัดการประชุม East Asia ซึ่งจะพานักธุรกิจมาจัดกิจกรรมในประเทศไทย ก่อนที่จะมีการประชุม World Economic Forum East Asia ที่ประเทศเวียดนามในเดือนมิ.ย. ส่วนประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวในปี 54