ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ กล่าวทางรายการวิทยุประจำสัปดาห์ว่า การลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวในอนาคต เพราะในขณะนี้หนี้สินสะสมของรัฐบาลในขณะนี้มีอยู่มากเกินไป
นอกจากนี้ โอบามากล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐควรสนับสนุนให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจมีวินัยในการใช้จ่าย และควรได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ โอบามาเชื่อว่าวินัยด้านการใช้จ่ายจะช่วยให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐไตรมาส 4 ปี 2552 พุ่งสูงขึ้นในอัตรา 5.7% ต่อปี ซึ่งทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี
การแสดงความคิดเห็นของโอบามาในวันนี้ มีขึ้นหลังจากที่เขาแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยโอบามามุ่งเน้นเรื่องการใช้นโยบายกระตุ้นการจ้างงาน และชูประเด็นลดยอดขาดดุลงบประมาณด้วยการไม่เพิ่มงบประมาณโครงการบางโครงการของรัฐบาลเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งเขาเชื่อว่าจะทำให้ประหยัดงบประมาณได้ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับปีหน้า
สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) คาดว่า ยอดขาดดุงบประมาณปี 2553 ของสหรัฐจะลดลงสู่ระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในปี 2552 ที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 9.2% ของตัวเลขจีดีพี