นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค.ยังไม่ได้รับนโยบายให้มีการศึกษาการต่ออายุมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีกำหนดจะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.53
อย่างไรก็ตาม จากปีที่ผ่านมาที่รัฐบาลประกาศมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ผลที่เกิดจากมาตรการโดยตรงยังไม่ชัดเจนว่าช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นจริง หรือการฟื้นตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นผลมาจากมาตรการภาษีดังกล่าว หรือเป็นผลจากเศรษฐกิจทั่วไป
"ตอนนี้ยังไม่มีนโยบายให้ศึกษาเรื่องนี้ ต้องดูว่าจำเป็นต้องต่ออายุหรือไม่...ต้องดูว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้านไหนต่อ เพราะมีหลายด้าน"นายสาธิต กล่าว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ากระทรวงการคลังจะต่ออายุมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ เนื่องจากนโยบายภาษีเป็นเรื่องที่อ่อนไหวง่าย จึงไม่ต้องการส่งสัญญาณใด ๆ เพราะอาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสะดุดลงได้ อีกทั้งยังมีเวลาพิจารณาในเรื่องนี้อีกระยะก่อนที่จะหมดอายุมาตรการ
สำหรับหลักการพิจารณามาตรการภาษีนั้นจะต้องดูว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ต่อเนื่องหรือไม่ แม้ขณะนี้จะมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนแล้ว แต่จะมีความยั่งยืนหรือไม่ ขณะที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อความอ่อนไหวต่อการบริโภค การลงทุนในประเทศ รวมถึงกรณีปัญหามาบตาพุด
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจที่เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในเอเซียเริ่มดีขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออก ขณะที่การบริโภคในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคาสินค้าการเกษตรที่สูงขึ้น ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรดีขึ้นตาม แต่การลงทุนในประเทศยังมีการฟื้นตัวไม่มากนัก