ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หลังนักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 3, 2010 07:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากรายงานผลประกอบการภาคเอกชนและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์ และหันไปถือครองที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์และยูโร นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินในประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์เป็นรายได้หลัก รวมถึงดอลลาร์แคนาดา

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.25% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3962 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3927 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.28% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.370 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 90.620 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.16% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.5979 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.5954 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่กระเตื้องขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0547 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0556 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.59% แตะที่ 0.8862 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.8915 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.38% แตะที่ 0.7118 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7091 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักวิเคราะห์จากเนชั่นแนล แบงค์ ออฟ แคนาดา กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนมองว่าไม่จำเป็นต้องซื้อดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอีกต่อไป จึงเข้าถือครองสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า และสกุลเงินในประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์เป็นรายได้หลัก หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทะยานขึ้น

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในการประชุมตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2552 ซึ่งการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับ 4%

สหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 58.4 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 54.9 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 จุด นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.0% แตะที่ 96.6 จุด หลังจากรัฐบาลใช้นโยบายลดหย่อนภาษีให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรก

ธนาคารกลางยุโรปจะจัดประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดี โดยนักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1%

นักลงทุนติดตามรายงานตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 13,000 คน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในปี 2553 แต่คาดว่าอัตราว่างงานจะยังคงยืนอยู่ที่ระดับ 10% ในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ