สหรัฐเผยยอดทำสัญญาขายบ้านเดือนธ.ค.ดีดตัว 1.0% หลังรบ.ยืดเวลาใช้นโยบายลดหย่อนภาษี

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 3, 2010 08:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ของสหรัฐประจำเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.0% แตะที่ระดับ 96.6 จุด หลังจากรัฐบาลขยายระยะเวลาการใช้นโยบายลดหย่อนภาษีเงินกู้ให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรก

สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยดัชนี้การทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนธ.ค.ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามความคาดหมาย ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยจะเริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ในแง่บวก โดยดัชนีสามารถดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

ลอเรนซ์ ยัน นักวิเคราะห์จาก NAR กล่าวว่า จากการรายงานข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้นโยบายด้านภาษี เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านนั้นได้รับปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลขยายเวลาใช้มาตรการลดหย่อนภาษีให้ผู้ซื้อบ้านที่หมดอายุลงไปแล้วตั้งแต่เดือนพ.ย.2552

โดยผู้ซื้อบ้านต่างขานรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวและได้กลับเข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง ทำให้ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายขยายตัวขึ้นสูงสุดเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนธ.ค.จะขยายตัวดีขึ้นจากปัจจัยเดียวกัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้ซื้อบ้านที่ทำสัญญาซื้อบ้านหลักแรกระหว่างวันที่ 30 เม.ย.2553 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2553 จะได้รับสิทธิ์ในมาตรการลดหย่อนภาษี 8,000 ดอลลาร์ ส่วนผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่สองจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินกู้ 6,500 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐยังคงเป็นไปอย่างทุลักทุเลและไม่ได้หวือหวามากนัก เมื่อพิจารณาจากข้อมูลอื่นๆซึ่งระบุว่า จำนวนบ้านที่เจ้าของปล่อยทิ้งร้างพุ่งขึ้นแตะ 2.7% ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2552 จากระดับ 2.6% ในไตรมาสก่อนหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ