องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า จีนเป็นประเทศที่นำพาให้ทั่วโลกหลุดพ้นจากภาวะถดถอยด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งโดยมีปัจจัยหนุนเป็นมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ OECD กล่าวว่า การดำเนินนโยบายและใช้มาตรการที่เด็ดขาดของรัฐบาลจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ช่วยป้องกันผลกระทบจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจโลกได้เป็นอย่างดี และนอกจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งภายในประเทศจะช่วยให้เศรษฐกิจของจีนกลับมามีความสมดุลแล้ว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนยังเผื่อแผ่อานิสงส์ต่อประเทศอื่นๆทั่วโลกด้วย
ขณะเดียวกัน OECD คาดการณ์ว่า จีนอาจแซงหน้าสหรัฐและกลายเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ในอีก 5 -7 ปีข้างหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าตัวเลขหนี้สินสาธารณะโดยรวมของจีนมีสัดส่วนเพียง 21% ของตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2551 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนอาจช่วยลดสัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีให้เหลือเพียง 3% ในปีนี้ ขณะที่หนี้สินสาธารณะของกลุ่มประเทศ OECD จะมีสัดส่วนเกือบเท่ากับตัวเลขจีดีพีโดยรวมในปีนี้ และอาจพุ่งแซงหน้าจีดีพีในปีหน้า
ทั้งนี้ OECD เชื่อว่าจีนสามารถหาเงินมาใช้จ่ายในภาครัฐได้เนื่องจากสถานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็แนะว่า จีนควรเพิ่มการใช้จ่ายภาคสาธารณะเพื่อรองรับการปฏิรูปสังคมในส่วนของการศึกษา สวัสดิการสังคม การจ่ายเงินบำนาญ และการประกันสุขภาพภายใต้แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว