ดัชนีภาคอุตสาหกรรมบริการในสหรัฐเดือนม.ค.มีแนวโน้มขยายตัวสูงสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งส่งสัญญาณให้เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมต่างๆเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีภาคอุตสาหกรรมในเดือนม.ค.ที่ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51 จุด จากระดับ 49.8 จุดในเดือนธ.ค. และคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะลดลงเพียง 30,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่ดิ่งลง 84,000 รายในเดือนธ.ค.
การส่งออกที่ขยายตัว รวมถึงความพยายามที่จะเพิ่มปริมาณสินค้าในสต็อกให้ดีดตัวขึ้นเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมาได้ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆกลับมาขยายตัวมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์ในตลาดแรงงานที่เริ่มคึกคักก็ช่วยกระตุ้นยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคให้กลับมาอยู่ในระดับที่เท่ากับเมื่อช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งก็นับเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป
นักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ และในช่วงที่สหรัฐเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยนั้น ภาคอุตสาหกรรมบริการไม่ได้หดตัวลงมากเท่ากับภาคอุตสาหกรรมการผลิต ดังนั้น การฟื้นตัวในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวจึงไม่ได้เหวี่ยงตัวขึ้นแรงนัก
ทั้งนี้ ดัชนีภาคอุตสาหกรรมบริการบ่งชี้ถึงสถานการณ์ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก สาธารณูปโภค บริการด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัย การคมนาคม การเงิน และประกันภัย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 ปี 2552 ขยายตัวในอัตรา 5.7% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี และเป็นการขยายตัวได้ 2 ไตรมาสติดต่อกัน