CIMB Group Holdings Bhd คาดการณ์ว่า ยอดขายพันธบัตรอิสลาม (sukuk) ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 24% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยคาดว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะออกพันธบัตรอิสลามมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเอเชียเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย
CIMB คาดว่ายอดขายพันธบัตรในกลุ่มอ่าวอาหรับจะลดลง เนื่องจากข่าวบริษัท ดูไบ เวิล์ด ของรัฐบาลดูไบ เลื่อนการชำระหนี้ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในประเทศกลุ่มนี้ สวนทางกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะมีการซื้อขายพันธบัตรอิสลามอย่างคึกคัก เนื่องจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นจะทำให้ความต้องการด้านการระดมทุนเพิ่มขึ้นด้วย
ขณะที่คณะกรรมการบริการด้านการเงินอิสลาม (Islamic Financial Services Board) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์คาดการณ์ว่า สินทรัพย์ในอุตสาหกรรมการเงินอิสลามจะขยายตัวขึ้นแตะระดับ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2558 จากระดับปัจจุบันที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากโลกมุสลิมมีความร่ำรวยมากขึ้น โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ระบุว่าในปี 2552 สินทรัพย์ของ 500 ธนาคารอิสลามระดับแนวหน้าของโลก ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 8.22 แสนล้านดอลลาร์ จากปี 2551 ที่ระดับ 6.39 แสนล้านดอลลาร์
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออก ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ จะขยายตัว 8.1% ในปีนี้ สูงกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียง 7.8%