กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แนะให้ธนาคารกลางอินเดียเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากเห็นว่า อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภายหลังเกิดภาวะวิกฤตการเงินโลก พร้อมคาดว่าเศรษฐกิจอินเดียในปีนี้จะขยายตัวที่ 8% โดยรายงานของไอเอ็มเอฟที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ระบุว่า ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมีส่วนช่วยกระตุ้นให้อินเดียสามารถกลับมาใช้นโยบายการเงินตามปกติได้ เพราะอินเดียสามารถนำพาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เป็นประเทศแรกๆ ดังนั้นธนาคารกลางจึงสามารถปรับนโยบายการเงินเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้อย่างเต็มที่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เศรษฐกิจอินเดียสามารถฟื้นตัวได้จากอานิสงส์ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี รวมถึงการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จะเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกถดถอยเมื่อปีที่ผ่านมา
โดยผู้ว่าการธนาคารกลางได้ลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนต.ค.2551-เม.ย.2552 ก่อนที่จะประกาศปรับเพิ่มสัดส่วนกันสำรองเงินสดของธนาคารพาณิชย์ในประเทศขึ้น 0.75% สู่ระดับ 5.75% เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจเริ่มขยายตัวและเงินเฟ้อกำลังวิ่งไต่ระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟเตือนว่า แม้เศรษฐกิจอินเดียจะมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างสดใส เมื่อดูจากอัตราการขยายตัวที่ 7.9% ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ต้องระวังคือปัญหายอดขาดดุลที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นอุปสรรคกีดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และล่าสุดฟิทช์ เรทติ้งส์ได้ออกมากล่าวว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้ต้องมีการปรับลดอันดับเครดิตของอินเดีย หากเศรษฐกิจไม่สามารถขยายตัวได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ แต่ในส่วนของอันดับเครดิตสกุลเงินในประเทศและต่างประเทศยังคงทรงตัวที่ระดับเดิมคือ BBB-
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะกลางของอินเดียยังคงสดใส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะปัจจัยหนุนภายในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยอินเดียมีเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้เร็วจึงสามารถปรับใช้นโยบายการเงินได้ก่อนประเทศอื่นๆ