คลัง เผยยอดหนี้สาธารณะเดือน พ.ย. 52 อยู่ที่ 45.56% ต่อจีดีพี

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 5, 2010 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ย.52 มีจำนวน 3,969,822 ล้านบาท หรือ 45.56% ของ GDP แยกเป็น หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,579,596 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,106,125 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 201,435 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 82,666 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะลดลง 23,311 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 4,416 ล้านบาท 8,161 ล้านบาท และ 13,516 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 2,782 ล้านบาท ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีหนี้คงค้าง

การลดลงสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ โดยลดลงสุทธิ 13,516 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการไถ่ถอนพันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันที่ครบกำหนด

สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลงสุทธิ 4,416 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนด จำนวน 55,541 ล้านบาท และการออกตั๋วเงินคลังจำนวน 37,000 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF1) ที่ครบกำหนดในเดือนพฤศจิกายน 2552 จำนวน 30,000 ล้านบาท โดยการทยอยออกพันธบัตรรัฐบาลในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2552-มกราคม 2553 ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนได้ดำเนินการประมูลพันธบัตรไปแล้ว 8,000 ล้านบาท และนำเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรดังกล่าวไปทยอยชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นที่ใช้เป็น Bridge Financing ในการปรับโครงสร้างหนี้

สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลง 8,161 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นจำนวน 37,630 ล้านบาท และเบิกจ่ายเงินกู้ระยะยาว จำนวน 30,000 ล้านบาท

ขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,782 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันในส่วนของหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น หนี้สาธารณะ 3,969,822 ล้านบาท ยังแยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 389,117 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.80 และ หนี้ในประเทศ 3,580,705 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.20 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,656,033 ล้านบาท หรือร้อยละ 92.10 และหนี้ระยะสั้น 313,789 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.90 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ