นายกฯสเปนชี้แจงปัญหาขาดดุล หวังกระตุ้นนักธุรกิจสหรัฐเข้ามาลงทุนมากขึ้น

โฮเซ่ หลุยส์ โรดริเกซ ซาปาเทโร นายกรัฐมนตรีสเปนออกโรงชี้แจงปัญหาขาดดุลงบประมาณ อ้างเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้นักธุรกิจสหรัฐเข้ามาลงทุนในสเปนมากขึ้น โดยย้ำว่าระบบเศรษฐกิจยังมีความมั่นคงและแข็งแกร่ง

นายกรัฐมนตรีสเปนกล่าวในระหว่างการประชุมกับผู้นำภาคธุรกิจของสหรัฐที่สภาการค้าในกรุงวอชิงตันวานนี้ว่า การที่สเปนมียอดขาดดุลนั้น เป็นผลพวงมาจากอัตราการใช้จ่ายที่พุ่งสูงถึงขีดสุด แต่การใช้มาตรการควบคุมการใช้จ่ายในอนาคตจะช่วยให้ยอดขาดดุลบัญชีในประเทศปรับตัวลดลง

โดยนายซาปาเทโรกล่าวว่า รัฐบาลจะปรับลดการใช้จ่ายลง 5 หมื่นล้านยูโร (6.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใน 3 ปี โดยตั้งเป้าควบคุมยอดขาดดุลบัญชีให้เหลือเพียง 3% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากปัจจุบันนี้ที่อยู่ในระดับ 11.5% ขณะเดียวกันยังเตรียมประกาศแผนปฏิรูปตลาดแรงงานเพื่อลดการใช้จ่ายสาธารณะลงอีกทางหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้แสดงความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลบัญชีของกลุ่มประเทศยุโรปโดยเฉพาะในประเทศกรีซ สเปน และโปรตุเกส ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้กดดันให้ดัชนี IBEX 35 ตลาดหุ้นสเปนปรับตัวลดลงเกือบ 6% เมื่อวานนี้ และเป็นระดับที่ดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 2551

ทั้งนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ได้ปรับลดอันดับตราสารหนี้ของสเปนลงเหลือ AA+ จากระดับ AAA ในเดือนธ.ค.2552 พร้อมให้แนวโน้มเป็นลบ จากเดิมที่อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ โดยให้เหตุผลว่าสเปนยังต้องเผชิญกับปัญหาขาดดุลการค้าและอาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้