ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า สหรัฐไม่ได้อยู่ในความเสี่ยงจนถึงขั้นที่จะสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA แม้คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐจะสูงถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2553 ก็ตาม
"ผมมั่นใจว่าการลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐจะไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะเมื่อใดก็ตามที่เกิดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนทั่วโลกจะเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐและทรัพย์สินที่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง สถานการณ์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเชื่อมั่นในรากฐานเศรษฐกิจของสหรัฐ และยังมั่นใจว่าสหรัฐยังคงเป็นกลไกสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้น" ไกธ์เนอร์กล่าว
นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์กล่าวว่า ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะถดถอยรอบสองนั้น ได้ลดลงแล้ว เมื่อพิจารณาจากหลักฐานล่าสุดคือตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2552 ที่ขยายตัวในอัตรา 5.7% ต่อปี ซึ่งทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี
การแสดงความเชื่อมั่นของไกธ์เนอร์มีขึ้นหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อันดับความน่าเชื่อพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐอาจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในอนาคต นอกเสียจากว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ
ทั้งนี้ ไกธ์เนอร์กล่าวว่า สหรัฐวางแผนที่จะควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณทันทีที่ตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวขึ้น และขณะนี้รัฐบาลจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้างงาน เนื่องจากตัวเลขจ้างงานในสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยประธานาโอบามาได้ยื่นร่างงบประมาณประจำปี 2553 มูลค่ารวม 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ ต่อสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งงบประมาณดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 25.1 ของตัวเลขจีดีพีและจะมุ่งเน้นการสร้างงานเป็นหลัก