นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) มีมติเห็นชอบแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในกทม.และปริมณฑล ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในระยะ 10 ปี โดยเปิดให้บริการใน 6 สายภายในปี 2562
ประกอบด้วย 1.สายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม., 2.สายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 17.5 กม. และช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี ระยะทาง 20 กม., 3.สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 19.8 กม., 4.สายสีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7 กม. และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส ระยะทาง 1 กม., 5.สายสีแดงเข้ม ช่วงหัวลำโพง-บางบอน ระยะทาง 18 กม. สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14 กม. และสาย Airport Link ช่วงบางซื่อ-พญาไท ระยะทาง 7.9 กม.
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม คจร.ยังเห็นชอบในหลักการต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม จากช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 11.4 กม. เป็นหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รวมระยะทาง 18.4 กม.และยกเลิกศูนย์ซ่อมบำรุง(Depot) บริเวณด้านทิศใต้ของสนามบินดอนเมือง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 พ.ย.51 โดยให้ใช้ศูนย์ซ่อมบำรุงบริเวณคูคต จ.ปทุมธานีแทน และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ดำเนินการต่อไป
และเห็นชอบหลักการให้การก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง รวมทั้งโครงการ Airport Link ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไท-บางซื่อ ซึ่งได้ออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างแนวรางในระดับคลองแห้ง(Open Trench) โดยการขุดเจาะลึกลงไปในดิน และมีการวิ่งของขบวนรถไฟลึกลงไปจากผิวดินเดิน โดยอาจมีการปิดกั้นผิวดินด้านบนในลักษณะอุโมงค์หรือมีการเปิดผิวดินด้านบน โดยพิจารณานับรวมการก่อสร้างระดับคลองแห้งให้จัดรวมอยู่ในระดับใต้ดินด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้อนุมัติในหลักการให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางขนาดรองในพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานได้เองที่มีแนวสายทางนอกเหนือและไม่ซ้ำซ้อนกับโครงข่ายที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทให้สามารถดำเนินการได้ กรณีที่เป็นระบบขนส่งมวลชนสายรองที่มีปริมาณผู้โดยสารในปีที่เริ่มเปิดดำเนินการต่ำกว่า 8,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมฯ ยังได้รับทราบความคืบหน้าของสถานะการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ณ สิ้นเดือน ม.ค.53 โดยขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กม.อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการสิ้นเดือน ส.ค.57, สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กม.อยู่ระหว่างการยื่นซองประกวดราคา คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ก.พ.59
สายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กม.อยู่ระหว่าง รฟม.เตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาวิเคราะห์ตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานฯ(พ.ร.บ.ร่วมทุน) และ สายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กม. อยู่ระหว่าง รฟม.เตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาวิเคราะห์ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน เริ่มงานเดือนธ.ค.52 แล้วเสร็จเดือนม.ค.53 คาดว่าจะเปิดบริการเดือนเม.ย.58
สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มสถานีบางกรวย โดยจะนำเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป, สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 10 กม. สนข.อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการส่วนต่อขยายช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติมสถานี ม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต, สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 19 กม. อยู่ระหว่าง รฟท.เตรียมนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเส้นทางทั้งหมดตั้งงบประมาณไว้ 8 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีหลายเส้นทางจะเร่งให้เสร็จในปี 57-59 ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้การจราจรดีขึ้น
นอกจากนั้น ในวันนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานดูในส่วนสายสีเขียวและสีส้มที่มีปัญหาอยู่ ในเบื้องต้นงานในส่วนโยธาของสายสีเขียวยังเป็นขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.)แต่การบริหารจัดการทั้งระบบให้ไปดูว่า รฟม.หรือ กทม.เป็นผู้ดูแล โดยจะให้เวลาศึกษา 1 เดือน