นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในยุโรปคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจำเป็นต้องเลื่อนเวลาการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปอีก เพราะเกรงว่าการถอนมาตรการดังกล่าวจะยิ่งส่งผลให้กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของกรีซ สเปน และโปรตุเกส ทวีความรุนแรงขึ้น
นักวิเคราะห์จากบริษัท Daiwa Capital Markets ในลอนดอน กล่าวว่า นักลงทุนกระหน่ำขายสินทรัพย์ในกรีซ สเปน และโปรตุเกส หลังจากรัฐบาลของทั้งสามประเทศยังไม่สามารถแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณ และหากอีซีบีตัดสินใจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจในยุโรป
ก่อนหน้านี้ อีซีบีประกาศว่าจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ประกาศใช้เมื่อปีที่แล้ว เพื่อเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงภาวะเงินเฟ้อ โดยเมื่อไม่นานมานี้ อีซีบีประกาศว่าจะยุติการปล่อยวงเงินกู้ประเภท 6-12 เดือนให้กับธนาคารพาณิชย์ เพราะที่ผ่านมาอีซีบีปล่อยเงินกู้จำนวนมากให้กับธนาคารพาณิชย์ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 1%
ผู้นำกลุ่มประเทศยุโรปเตรียมเข้าประชุมกันในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อหารือถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากที่กรีซเผชิญปัญหาขาดดุลงบประมาณมหาศาล ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกรีซพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้จุดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหายอดขาดดุลที่กำลังลุกลามไปยังสเปนและโปรตุเกส
ปัญหายอดขาดดุลในประเทศยุโรปส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลุดจากระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลกรีซจะสามารถแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะได้ แม้นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศใช้มาตรการวินัยด้านการเงินการคลังที่ครอบคลุมถึงการระงับการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และขึ้นภาษีเชื้อเพลิง ก็ตาม