คลังประกาศบังคับกระทรวงยกระดับธรรมาภิบาลผู้บริหารระดับสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 9, 2010 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง มอบนโยบาย และลงนามข้อบังคับกระทรวงการคลัง สำหรับผู้บริหารและข้าราชการการเมืองในสังกัดกระทรวงการคลัง เพื่อยกระดับธรรมาภิบาล พัฒนาความโปร่งใส รวมถึงป้องกัน และปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ ในวงข้าราชการ

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้ศึกษาและรวบรวมประเด็นปัญหาที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวมของผู้บริหารกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวของหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และจรรยาข้าราชการพลเรือนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงการคลัง

สำหรับร่างข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยจรรยาของผู้บริหารกระทรวงการคลังเพื่อป้องกันการขัดหรือแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. 2553 แบ่งเป็น 3 หมวด รวม 15 ข้อ โดยมีสาระสำคัญ คือ

ประเด็นแรก ข้อห้ามการขัดหรือแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้บริหารกระทรวงการคลัง ได้แก่ ห้ามกระทำการใดๆที่ขัดหรือแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม ต้องไม่เป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร ตัวแทน พนักงาน หรือลูกจ้าง รวมทั้งการรับจ้างหรือรับทำการงานใดๆ ในรัฐวิสาหกิจหรือนิติบุคคล ที่อาจขัดหรือแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและการปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือประกอบธุรกิจขัดหรือแย้งต่อประโยชน์ของหน่วยงานในสังกัดหรือมีหน้าที่ในฐานะผู้มีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบหรือดำเนินคดี หรือกระทบต่อความมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ยกเว้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่รตามที่กระทรวงการคลังมอบหมาย

ต้องไม่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานในสังกัดกระทวงการคลังที่ตนสังกัดหรือมีหน้าที่ในฐานะผู้มีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดีซึ่งจะก่อให้เกิดการขัดหรือแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม เว้นแต่การเป็นคู่สัญญาในการให้บริการของหน่วยงานตามธุรกรรมปกติ ห้ามผู้บริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจหรือนิติบุคคล โดยได้รับสิทธิพิเศษอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารกระทรวงการคลัง

ในกรณีที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงกระคลังไปเป็นกรรมการหรือผู้แทนกระทรวงการคลังในรัฐวิสาหกิจหรือนิติบุคคล หากได้มาซึ่งหลักทรัพย์ในฐานะเป็นกรรมการหรือผู้แทนของกระทรวงการคลัง จะต้องแจ้งรายละเอียดและเงื่อนไขของหลักทรัพย์ดังกล่าว หากกระทรวงการคลังเห็นว่าสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลหรือกระทรวงการคลัง ให้โอนสิทธิมายังกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการต่อไป แต่ไม่สอดคล้องกับนโยบาย ผู้บริหารกระทรวงการคลังสามารถใช้สิทธิการได้มาซึ่งหลักทรัพย์นั้นได้ โดยให้รายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ดังกล่าวตามที่กำหนด

ผู้บริหารกระทรวงการคลังต้องไม่ใช้ข้อมูลที่ล่วงรู้จากการปฏิบัติหน้าที่ราชการและเป็นข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผยทั่วไปหรือต่อสาธารณะไปแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น

ประเด็นที่ 2 ในส่วนการเปิดเผยข้อมูลและการรายงาน ในกรณีที่ผู้บริหารกระทรวงการคลังเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตนและการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจมีการขัดหรือแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ ให้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาทราบในกรณีดังกล่าว เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการมอบหมายงาน

ทั้งนี้ ให้ผู้บริหารกระทรวงการคลังรายงานการถือครองหลักทรัพย์และรายงานการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งหลักทรัพย์ของตนและบุคคลที่เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด และรายงานโดยโดยใส่ซองปิดผนึกยื่นต่อผู้บังคับบัญชา จากนั้นให้กลุ่มตรวจสอบภายในกระทรวงการคลังเป็นผู้เก็บรักษาและเปิดผนึกซองเพื่อวิเคราะห์รายงานทุกๆ 3 เดือน และให้รายงานผลวิเคราะห์ดังกล่าวเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือปลัดกระทรวงการคลัง แล้วแต่กรณีภายใน 30 วัน

ประเด็นที่ 3 การบังคับใช้ ผู้บริหารกระทรวงการคลังผู้ใดไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ หากเข้าลักษณะการกระทำผิดวินัย ให้ได้รับโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่หากไม่เข้าลักษณะการกระทำผิดวินัยให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการ โดยว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือหรือสั่งให้ได้รับการพัฒนาตามที่เห็นสมควร และนำไปประกอบพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนขั้นเงินเดือน รวมทั้งนำไปประกอบการพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการในหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือนิติบุคคล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ