ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งแรง หลังเบอร์นันเก้เผยแผนถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 11, 2010 07:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยแผนการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ซึ่งกู้ยืมโดยตรงจากเฟด

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3731 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3789 ยูโร/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.36% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.970 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.650 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.37% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0680 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0641 ฟรังค์/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.78% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5581 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5704 ปอนด์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.26% แตะที่ 0.8755 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.8778 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.35% แตะที่ 0.6924 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6948 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า เฟดวางแผนถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการใช้นโยบายคุมเข้มด้านสินเชื่อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์อย่าคับคั่ง เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าสูงขึ้นด้วย

ก่อนหน้านี้เฟดได้ประกาศปิดโครงการจัดหาสภาพคล่องในตลาดเงินและชะลอการเข้าซื้อหลักทรัพย์และตราสารหนี้ โดยจะปล่อยให้โครงการซื้อหลักทรัพย์สิ้นสุดลงภายในไตรมาสแรกของปี 2553 ซึ่งการประกาศปิดโครงการจัดหาสภาพคล่องเป็นหนึ่งในห้านโยบายหลักๆของเบอร์นันเก้ที่เพิ่งเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดสมัยที่สองเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเบอร์บันเก้มีจุดหมายที่จะรักษาและเพิ่มพูนเม็ดเงินในดุลบัญชีของเฟด เพื่อให้เฟดมีความสามารถในการรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.02 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.60 หมื่นล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ