สำนักงานสถิติเยอรมนีเผยตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 ปี 2552 ย่ำฐานทรงตัวที่ระดับ 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ หลังอัตราการบริโภคและการลงทุนชะลอตัว ขณะที่ภาคธุรกิจส่งออกขยายตัวดีขึ้น
โดยยอดส่งออกที่คึกคักช่วยหนุนให้เศรษฐกิจของเยอรมนีในไตรมาส 4 ยังคงทรงตัวได้ที่ระดับเดิม แม้ว่าการบริโภคและการลงทุนจะปรับตัวลดลง แต่หากเทียบตัวเลขจีดีพีกับปีที่แล้วพบว่า เศรษฐกิจหดตัวลง 2.4% ขณะที่ธนาคารกลางคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 1.6%
ทั้งนี้ เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปสามารถหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา และยังมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน หลังการดีดตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกช่วยกระตุ้นอุปสงค์สินค้าส่งออกของเยอรมนี แต่อัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่หมดอายุลงส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภายในประเทศ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะยังเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนจะยังคงซบเซา แต่แนวโน้มภาพรวมนั้น เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจประจำปี 2553 ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดียที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับ 9.7% และ 7.8% ตามลำดับนั้น อาจช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในปีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเศรษฐกิจเขตยูโรโซนจะขยายตัวได้ 3.9% ในปีนี้