ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยถึงการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.75% ในเดือนนี้ ชี้เป็นการสร้างสมดุลด้านนโยบายการเงิน ขณะทั่วโลกมีความกังวลว่า ความเสี่ยงด้านปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปอาจบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก
โดยรายงานหลังการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลียระบุว่า ปัจจัยจากต่างประเทศมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย ซึ่งขณะนี้ธนาคารต้องใช้เวลาในการพิจารณาสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นควบคู่กันไป ซึ่งเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางคาดว่า หากปัจจัยทางเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องตามที่คาดการณ์ไว้ ธนาคารก็จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะมีมติขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้งไป
อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ออสเตรเลียเทรดที่ระดับ 88.82 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากระดับ 88.92 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานหลังการประชุม ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะ 2 ปีร่วงลง 0.02% แตะที่ 4.16%
ความวิตกกังวลต่อปัญหาขาดดุลงบประมาณของกรีซที่มีสัดส่วนสูงถึง 13% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศเมื่อปี 2552 เป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าตราสารหนี้ของรัฐบาลยุโรปในปีนี้ และสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะยังเป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องนำมาหารือในที่ประชุม และแน่นอนว่าจะทำให้เราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการกำหนดนโยบายการเงินมากขึ้น ขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่บางแห่งยังไม่ชัดเจน
ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกๆในโลกที่นำร่องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง 3 ครั้งเมื่อปีที่ผ่านมาจากที่เคยอยู่ในระดับ 3% มาเป็น 3.75% ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนหน้า