นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในยุโรปเชื่อว่า นายแอ็กเซล เวเบอร์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ต่อจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ หลังจากนายวิคเตอร์ คอนสแตนซิโอ ประธานธนาคารกลางโปรตุเกส ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรองประธานอีซีบีเมื่อวานนี้ โดยนายทริเชต์จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานอีซีบีในวันที่ 31 ต.ค.ปีหน้า
การเสนอชื่อผู้รับตำแหน่งประธานอีซีบีได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลในยุโรปกำลังเผชิญวิกฤตการณ์ด้านการคลัง จนเป็นเหตุให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพด้านการเงินของยุโรป อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการแต่งตั้งเวเบอร์เป็นประธานอีซีบีในปีหน้าจะช่วยให้ยุโรปสามารถรับมือกับภาวะเงินเฟ้อและสร้างวินัยด้านการคลังในยุโรปเพื่อปกป้องเสถียรภาพของสกุลเงินยูโรได้
โลรองต์ บิลเก้ อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของอีซีบีซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ที่โนมูระ อินเตอร์เนชั่นแนล ในลอนดอน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่คาดการณ์ว่า เวเบอร์จะได้นั่งเก้าอี้ประธานอีซีบีกล่าวว่า เวเบอร์เป็นคนที่มีจุดยืนเด็ดเดี่ยว และมีศักยภาพสูงพอที่จะผลักดันให้สกุลเงินยูโรให้มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ เวเบอร์ยังเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับและมีมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งจะช่วยให้อีซีบีประสบความสำเร็จบนเวทีโลก
เวเบอร์ วัย 52 ปี มีพื้นฐานการเป็นนักวิชาการเช่นเดียวกับนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเวเบอร์เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยโคโลญก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางเยอรมนีในปี 2547 หลังจากนายเออร์เนส เวลเทเก้ ถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางเนื่องจากกรณีอื้อฉาวด้านการเงิน จากนั้นเวเบอร์ได้รับการเชิญให้เป็น 1 ใน 22 คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบี
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มองว่า เวเบอร์เป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบาย "สายเหยี่ยว" ของอีซีบี เนื่องจากเวเบอร์มุ่งเน้นเรื่องการใช้นโยบายควบคุมความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพด้านราคาในยุโรป ขณะที่นายคอนสแตนซิโอ ที่เพิ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรองประธานอีซีบี ถูกมองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน "สายพิราบ" เพราะมุ่งเน้นแต่เรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจ