โอลิวิเยร์ บลองชาร์ด หัวหน้านักวิเคราะห์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า การปรับขึ้นค่าเงินหยวนของจีนจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยรักษาระดับการขยายตัวให้เป็นไปอย่างยั่งยืนและไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว บลองชาร์ดระบุว่า หากจีนปรับขึ้นค่าเงินหยวนราว 20% และหากประเทศอื่นๆในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชียปรับขึ้นค่าเงินของตนเองไปพร้อมๆกับจีน ก็จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐเพิ่มขึ้นราว 1%
การที่จีนตรึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเป็นเวลาหลายปีจนเป็นเหตุให้หลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐ ขาดดุลการค้ากับจีนนั้น ทำให้จีนถูกสหรัฐและหลายประเทศในยุโรปวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยนักการเมืองหลายคนในสหรัฐและยุโรปมองว่าการที่เงินหยวนของจีนอยู่ต่ำกว่ามูลค่าตลาดทำให้ประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะการส่งออก
อย่างไรก็ตาม บลองชาร์ดแสดงมุมมองที่แตกต่างจากคนอื่นๆ โดยเขามองว่าการปรับขึ้นค่าเงินหยวนไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทุกด้านให้กับสหรัฐและประเทศทั่วโลก พร้อมกับเน้นย้ำว่า การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของจีนให้ประสบความสำเร็จนั้น ควรเริ่มต้นด้วยการควบคุมอัตราการออมภายในประเทศ ไม่ใช่อัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ บลองชาร์ดชื่นชมจีนที่ประสบความสำเร็จในการยกเครื่องระบบประกันสุขภาพและบำเน็จบำนาญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทและสถาบันการเงินภายในประเทศสามารถทำกำไรได้ นอกจากนี้ บลองชาร์ดเชื่อว่ามาตรการที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศและจะช่วยให้จีนสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวรุนแรงเกินไปได้