นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยยอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือนม.ค.53 ว่า มีการขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เป็นนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วน และบริษัทจำกัดทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 4,641 ราย เพิ่มขึ้น 40.47% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.52 ซึ่งมี 3,304 ราย
ทั้งนี้คิดเป็นเงินทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 11,872.15 ล้านบาท โดยนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 482 ราย รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 259 ราย และบริการด้านธุรกิจอื่นๆ 208 ราย
โดยยอดการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนม.ค.53 ถือเป็นยอดการจดทะเบียนสูงสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่เดือนม.ค.49 ที่มียอดการจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ 4,697 ราย
นายบรรยงค์ ยังกล่าวด้วยว่า ในเดือนม.ค.53 มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกกิจการทั่วประเทศ 1,238 ราย ลดลง 5.35% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.52 ซึ่งมี 1,308 ราย ทั้งนี้ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนเลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก คือ รับเหมาก่อสร้าง 161 ราย รองลงมา คือ บริการด้านธุรกิจอื่นๆ 52 ราย และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 43 ราย ส่งผลให้มีนิติบุคคลคงอยู่ทั่วประเทศทั้งสิ้น 535,573 ราย
"การจัดตั้งบริษัทใหม่เป็นตัวเลขที่พอจะสะท้อนภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้บ้างว่า แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้ว จากยอดการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการจัดตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับงานก่อสร้างของภาครัฐในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือโครงการไทยเข้มแข็ง ส่วนตัวเลขการจดทะเบียนยกเลิกกิจการที่ลดลงยังสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นด้วย นายบรรยงค์ กล่าว