จิง อุลริช ผู้อำนวยฝ่ายหลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ประจำประเทศจีนของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์ในจีนจะลดลง 17% ในปี 2553 หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในเป็นประวัติการณ์ในปี 2552 ในขณะที่รัฐบาลจีนเร่งใช้มาตรการต่างๆเพื่อป้องกันตัวเลขเงินเฟ้อที่กำลังพุ่งสูงขึ้น
"ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อไปนั้น เราคาคว่าธนาคารพาณิชย์ของจีนจะเริ่มระมัดระวังการปล่อยเงินกู้ โดยเฉพาะเงินกู้ระยะสั้น เนื่องจากรัฐบาลจีนมีวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์และสัดส่วนของทุนสำรอง" อุลริชกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์จีนปล่อยเงินกู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 9.6 ล้านล้านหยวนในปี 2552 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์การเงินโลกครั้งรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปี แต่เม็ดเงินจำนวนมากในระบบส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจเป็นสาเหตุของภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่สกุลเงินหยวนของธนาคารพาณิชย์จีนประจำเดือนม.ค.ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 1.39 ล้านล้านหยวน หรือ 2.035 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 14.2%จากปีที่แล้ว ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.5% ต่อปี นับเป็นสถิติที่ลดลงจากเดือนธ.ค.ปี 2552 ที่พุ่งขึ้น 1.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี