เครดิต สวิส กรุ๊ป คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อีกในเร็วๆนี้ และคาดว่าธนาคารกลางจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปี 2553 หลังจากธนาคารกลางมีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มสัดส่วนการกันสำรอง 0.5% เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชะลอการขยายตัวอย่างร้อนแรงของเศรษฐกิจ หลังจากที่ยอดการปล่อยกู้และราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น
ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ในสกุลเงินหยวนของธนาคารพาณิชย์จีนประจำเดือนม.ค.ปี 2553 อยู่ที่ระดับ 1.39 ล้านล้านหยวน (2.035 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนยอดการปล่อยเงินกู้ตลอดทั้งปี 2552 อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.59 ล้านล้านหยวน ซึ่งสูงกว่าปี 2551 ถึง 2 เท่า
นายตง เถา นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองสภาพคล่องเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น สามารถลดผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อที่มีต่อระบบเศรษฐกิจแค่ในกรอบที่จำกัดเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางตัดสินใจเพิ่มการกันสำรองอีกในเร็วๆนี้ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ด้วย
"ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของธนาคารกลางจีนถือเป็นการส่งสัญญาณเตือน และเราเชื่อว่าธนาคารกลางจะยังคงมุ่งเน้นเรื่องการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าการที่ธนาคารกลางประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองสภาพคล่องจะไม่ส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ของจีน เพียงแต่ธนาคารกลางต้องการควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกิน 3% เท่านั้น" นายตงกล่าว
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนร่วงลง 7.9% ในปีนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางจีนพยายามควบคุมภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์