นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้ปิดรับลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเมื่อสิ้นเดือน ม.ค.53 และจากการคัดแยกลูกหนี้ของกรมบัญชีกลาง ล่าสุดมีจำนวน 1,195,481 ราย มูลหนี้รวม 122,859 ล้านบาท โดยเฉลี่ยรายละ 103,000 บาท
เมื่อคัดแยกลูกหนี้แล้วพบว่า เป็นหนี้นอกระบบอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 84,653 ราย มูลหนี้ 7,526.97 ล้านบาท และภูมิภาค จำนวน 1,110,828 ราย มูลหนี้ 115,332.33 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการลงทะเบียนขอแก้หนี้นอกระบบมากที่สุด คือ จ.กรุงเทพฯ รองลงไปเป็น จ.สุรินทร์ จ. ศรีสะเกษ จ.บุรีรัมย์ จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี ส่วนจังหวัดที่ลงทะเบียนน้อยสุด จ.สมุทรสงคราม จ.ตราด จ.ระนอง จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.สิงห์บุรี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้คัดแยกรายชื่อผู้ลงทะเบียนไปตามธนาคารต่าง ๆ ในรอบแรกแล้ว ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)มีจำนวน 504,779 ราย ธนาคารออมสิน จำนวน 331,638 ราย ธนาคารกรุงไทย จำนวน 48,992 ราย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์)จำนวน 28,115 ราย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank) จำนวน 28,341 ราย และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จำนวน 14,471 ราย
สำหรับแนวทางปฏิบัติของกรมบัญชีกลางกับธนาคาร 6 แห่ง ที่ได้ส่งข้อมูลให้กับสาขาของธนาคารและให้ธนาคารสาขาประสานงานกับทางอำเภอ โดยทางอำเภอจะออกหนังสือเชิญลูกหนี้และเจ้าหนี้มาเจรจาหนี้ ในส่วนของหลักเกณฑ์การค้ำประกันของธนาคารยังคงใช้เกณฑ์เดิม
ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อตรวจสอบมูลหนี้แล้วต่ำกว่า 50,000 บาท/ราย ขณะนี้ทางธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้มีการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ไปบ้างแล้ว ทั้งนี้ได้กำชับให้มีการติดตามผลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง