สโตน แอนด์ แมคคาร์ที รีเสิร์ช แอสโซซิเอทส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะเพิ่มสัดส่วนเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement Ratio: RRR) ในประเทศอีกครั้งเพื่อควบคุมสภาพคล่องในอนาคต หลังจากที่จีนต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าจีนเพิ่งประกาศขึ้นเพดานสำรองอีก 0.5% เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ก็ตาม
ทั้งนี้ เพดานสำรองของธนาคารจีนจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16.5% ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 17% เมื่อเดือนก.ค. 2552 อยู่เพียงแค่ 1% แต่สโตน แอนด์ แมคคาร์ที ก็มองว่ามีความเป็นไปได้ที่แบงก์ชาติจีนจะเพิ่ม RRR อีกในเดือนมี.ค.นี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลด้านเศรษฐกิจมหภาคของจีนที่ส่งสัญญาณให้เห็นถึงสภาพคล่องที่สูงเกินไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.5% จากเดือนม.ค. 2552 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง
สโตน แอนด์ แมคคาร์ที คาดว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะใช้มาตรการเชิงรุกต่างๆผ่านตลาดเงิน (Open Market Operations : OMOs) เพื่อชะลอสภาพคล่องลงชั่วคราว เช่น การออกพันธบัตรระยะสั้นและ repo มากขึ้น โดยการใช้วิธีการแบบ open market operation นั้น ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการขึ้นเพดานสำรอง เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่ชี้ว่า พันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.นี้ มีมูลค่า 1,435 พันล้านหยวน ซึ่งสูงกว่าการถอนสภาพคล่องออกจากระบบเศรษฐกิจผ่านทางการขึ้นเพดานกันสำรอง 0.5% ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่เพียง 3 แสนล้านหยวน