กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช่วยผลักดันยอดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปี 53 ขยายตัวเพิ่มจากปีก่อนกว่า 18% ขณะที่ภาคเอกชนเชื่อปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจนักลงทุนที่จะเดินทางมาเข้าชมงานบางกอกแอนด์จิวเวอรี่แฟร์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ก.พ.นี้
"การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 18% จากปี 52 ที่มีมูลค่าการส่งออก 9,761 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงิน 330,000 ล้านบาท มีการขยายตัวที่ระดับ 18.04% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา"นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายในระยะยาวภายในปี 58 ไทยจะเป็นผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก โดยจะมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 810,000 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 18% ต่อปี
ด้านนายวิชัย อัศรัสกร นายกสมาคมอัญมณีและเครื่องประดับ เชื่อว่า การเปิดงานบางกอก แอนด์ จิวเวอรี่แฟร์ ครั้งที่ 45 ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ ตัดสินคดียึดทรัพย์ จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากขณะนี้มีนักธุรกิจต่างชาติตอบรับการเข้าร่วมงานและจัดงานแฟร์จำนวน 5,300 บริษัท
"ไม่มีรายใดที่จะถอนการร่วมงานบางกอกเจมส์ในครั้งนี้ และที่สำคัญนักลงทุนรายใหญ่ต่างก็ไม่ยกเลิกที่จะเข้ามาร่วมงานและทางคณะผู้จัดงานก็เชื่อมั่นว่า สถานการณ์จะผ่านพ้นไปด้วยดี และคาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท" นายวิชัย กล่าว
ขณะที่นายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานกรรมการบริหารโครงการบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวอรี่แฟร์ กล่าวว่า การตัดสินคดียึดทรัพย์จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอัญมณี และการเดินทางเข้ามาร่วมงานบางกอก แอนด์ จิวเวอรี่แฟร์ เพราะที่ผ่านมาก็เคยจัดงานตรงกับการรัฐประหารมาแล้ว ประกอบกับ คนที่มาในส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจต้องเดินทางเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่น่าจะมีผลกระทบ