สศค.เผยไตรมาสแรกปีงบ 53 รัฐขาดดุลการคลังตามระบบ GFS ลดลงสัญญาณศก.ฟื้น

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 18, 2010 11:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. (ระบบ Government Finance Statistics : GFS) ในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 53 (ต.ค.-ธ.ค.52) ภาครัฐอัดฉีดเงินสุทธิเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ทำให้ขาดดุลการคลัง 112,623 ล้านบาท คิดเป็น 1.2% ของ GDP ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 58,422 ล้านบาท ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และเป็นไปตามเป้าหมายของการดำเนินนโยบายการคลังของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่

ฐานะการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. ไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 53 รายได้ภาครัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 532,621 ล้านบาท คิดเป็น 5.6% ของ GDP เนื่องจากการจัดเก็บภาษีส่วนใหญ่ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 25,366 ล้านบาท หรือ 38.3% ส่วนบัญชีนอกงบประมาณ (กองทุนนอกงบประมาณ และเงินฝากนอกงบประมาณ) มีรายได้ต่ำกว่าเดียวกันปีที่แล้ว 594 ล้านบาท หรือ 0.6%

รายจ่ายของภาครัฐบาล (รวมการให้กู้หักชำระคืนตามนโยบายรัฐบาล)มีจำนวน 645,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 34,433 ล้านบาท หรือ 6.2% เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวน 443,605 ล้านบาท ขณะที่ อปท. คาดว่าจะมีรายจ่ายจำนวน 73,473 ล้านบาท และรายจ่ายจากเงินนอกงบประมาณและเงินให้กู้หักชำระคืนตามนโยบายรัฐบาลรวม 127,910 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการเบิกจ่ายของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนประกันสังคม ส่วนรายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศที่เบิกจ่ายจำนวน 256 ล้านบาท

"เป็นการขาดดุลลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 34.2% เกิดจากการเพิ่มสูงขึ้นของรายได้ที่มากกว่ารายจ่ายเป็นจำนวนมาก สะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเด่นชัด" นายสาธิต กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ