สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อังกฤษมียอดขาดดุลงบประมาณ 4.3 พันล้านปอนด์ (6.7 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมียอดเกินกุล 2.8 พันล้านปอนด์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีหดตัวลง 11.8% จากปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในส่วนของสวัสดิการสำหรับประชาชนที่ว่างงานทะยานขึ้น
โดยถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2536 ที่อังกฤษมียอดขาดดุลงบประมาณในเดือนมกราคม เพราะโดยปกติแล้ว เดือนม.ค.จะเป็นเดือนที่กระทรวงการคลังจะได้เงินจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate tax) มากที่สุด แต่ด้วยวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้ในปีนี้รายได้จากการจัดเก็บภาษีหดตัวลง ขณะที่ตัวเลขว่างงานที่ทะยานขึ้นทำให้รัฐบาลมีภาระมากขึ้นในการนำเงินไปใช้จ่ายเป็นสวัสดิการสำหรับผู้ที่ตกงาน
วานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23,500 รายจากเดือนก่อนหน้านี้ แตะที่ 1.64 ล้านราย ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปี
ขณะนี้ รัฐบาลอังกฤษคาดการณ์ว่า หนี้สาธารณะจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 1.78 แสนล้านปอนด์ในปีนี้ ซึ่งเทียบเท่ากับ 12.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ