ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศจัดตั้งกองทุนมูลค่า 1.58 พันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือเจ้าของบ้านชาวอเมริกันใน 5 รัฐที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งได้แก่รัฐแคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา เนวาดา อริโซนา และมิชิแกน
โอบามากล่าวว่าในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นในรัฐเนวาดา ว่า กองทุนมูลค่า 1.58 พันล้านดอลลาร์จะให้ความช่วยเหลือหน่วยงานด้านการเงินเพื่อที่อยู่อาศัยใน 5 รัฐ หลังจากราคาบ้านในรัฐเหล่านี้ทรุดตัวลงกว่า 20% นอกจากนี้ เงินจากกองทุนดังกล่าวจะถูกนำไปช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ตกงานและไม่สามารถผ่อนชำระค่าบ้านได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าของบ้านกลุ่มนี้ต้องถูกธนาคารยึดบ้าน
ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนักตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2550 จนทำให้รัฐบาลและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อบรรเทาภาวะตึงตัวด้านการเงิน ขณะที่เรียลตี้แทรค ซึ่งเป็นบริษัทจัดเก็บข้อมูลด้านตลาดที่อยู่อาศัยจองสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการยึดบ้านในเดือนม.คงเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี
อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงต้นปีนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขการก่อสร้างบ้านใหม่ในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นในอัตรา 591,000 ยูนิต/ปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 580,000 ยูนิต/ปี สะท้อนให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เคยเผชิญภาวะตกต่ำตั้งแต่ปี 2550 นั้น เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงาน