รมว.คลัง เผยการกระตุ้นศก.ในปี 53 น้อยลงจากปี 52 เหตุเอกชนเข็มแข็งขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 22, 2010 12:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ระบุว่า การที่สภาพัฒน์ฯ ประกาศอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ปี 52 หดตัว 2.3% ถือว่าดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมว่าจะหดตัวถึง 3% ซึ่งการที่เศรษฐกิจดีขึ้นมาจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น รายได้ภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น และช่วงไตรมาส 4/52 การใช้จ่ายของประชาชนมีมากขึ้น

พร้อมมองว่าในปี 53 เศรษฐกิจไทยเริ่มเข้มแข็งมากขึ้น แต่ยังมีหลายปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม โดยไตรมาส 1/53 จีดีพีน่าจะเติบโตไม่เท่าไตรมาส 4/52 เนื่องจากรัฐบาลไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเหมือนในปี 52 ขณะเดียวกันมองว่าในปีนี้ภาคการเงินอาจได้รับผลกระทบในเรื่องความเชื่อมั่น ขณะที่การลงทุนยังมีความจำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 53 ซึ่งหากมีเหตุการณ์กระทบความเชื่อมั่นอาจจะเป็นปัจจัยให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้

สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 53 จะมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ และโครงการลงทุนภายในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 แต่ในปีงบประมาณ 53 มีงบประมาณที่น้อยกว่าปี 52 ประกอบกับไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแล้ว ทำให้ต้องพึ่งพาภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ภาคเอกชนเริ่มมีความเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว

"งบประมาณปี 53 มีน้อยกว่าปี 52 โดยเฉพาะปี 52 ที่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ปีนี้ไม่มี ทำให้ต้องพึ่งเอกชนจากปีที่แล้วที่เอกชนอ่อนแอ แต่ปีนี้เอกชนเริ่มเข้มแข็งขึ้น" รมว.คลัง ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ