นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ไม่ให้มีการต่ออายุมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะหมดอายุในเดือนมี.ค.53
เนื่องจากตามที่ได้ดูข้อมูลพบว่าบริษัทที่ได้รับสิทธิลดภาษีภายใต้มาตรการดังกล่าวนั้นผลกำไรปรับตัวดีขึ้น และทำให้ภาพรวมยอดโอนอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นประมาณ 10% นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าหลังจากยกเลิกมาตรการดังกล่าวแล้วภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะยังเติบโตได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น
ส่วนมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนนั้น ครม.ให้มีการต่ออายุออกไปถึงเดือนมิ.ย.53 จากที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.53 ยกเว้นค่าน้ำประปาฟรี
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงสาเหตุที่ไม่คงมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า จากมาตรการที่ออกมาทำให้มีการเติบโตมากขึ้น มีการโอนเพิ่มขึ้นถึง 7% และผลประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น รายได้ก่อนหักดอกเบี้ยภาคอสังหาฯ อยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงไม่มีความจำเป็นต้องคงมาตรการดังกล่าวเอาไว้
นอกจากนี้ ที่มีการประชุมในเรื่องนี้ก่อน เพื่อต้องการให้ประชาชนเกิดความชัดเจน และดำเนินการโอนอีกภายใน 1 เดือนที่เหลือนี้ก่อนจะหมดอายุมาตรการ
ส่วนมาตรการค่าครองชีพ ที่ยังคงช่วยเหลือในเรื่องรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี และค่าไฟฟรี จะใช้งบประมาณช่วยเหลือ 4.5 พันล้านบาท เนื่องจากในส่วนของค่าไฟมีผู้ได้ประโยชน์ถึง 8 ล้านราย ขณะที่ค่าน้ำประปา ที่ผ่านมาได้มีการปรับลดปริมาณมาตลอดเวลาจากตั้แงต่ 50 ลบ.ม. เป็น 30 ลบ.ม. และ 20 ลบ.ม. จะเห็นได้ว่าประชาชนได้รับประโยชน์น้อยลง จึงไม่มีความจำเป็นต้องคงเอาไว้