นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ตัวแทนสมาคมโรงสีข้าวและสมาคมชาวนาไทยได้เสนอต่อนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการประมูลข้าวในสต็อก ระหว่างการเข้าพบเพื่อรับฟังการชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายการระบายข้าวของรัฐบาลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการเปิดประมูลข้าวส่งผลกระทบทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำ
ทั้ง 2 สมาคมฯ เห็นว่ารัฐบาลควรจะเปลี่ยนรูปแบบการระบายข้าวมาขายให้โรงสีแทน เนื่องจากทางโรงสีพร้อมที่จะรับซื้อข้าวในราคาที่รัฐน่าจะพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็น 17,000 บาท/ตัน หรือ 18,000 บาท/ตันก็ว่าไป ดีกว่าการที่รัฐบาลจะนำข้าวออกมาเปิดประมูลแบบนี้
"ตอนนี้กระเทือนกันไปหมด เพราะผู้ส่งออกเองก็ไม่ซื้อข้าวจากโรงสี แต่ไปรอซื้อข้าวราคาประมูลจากรัฐเพราะราคามันถูก โรงสีเองก็ไม่รับซื้อข้าวจากชาวนา ส่งผลกระทบให้ชาวนาไทยรายได้ตกต่ำ ก็ได้รายงานให้รองนายกฯทราบถึงปัญหาหลายๆประเด็นว่าถ้าเปิดประมูลข้าว 2 ล้านตัน ประมูลครั้งละ 5 แสนตัน ชาวนาตาย ไปไม่รอด ใครจะรับผิดชอบ มันเกิดจากสาเหตุตรงนี้จริงๆ ไม่ใช่สาเหตุอื่น จึงขอให้มีการระงับ อย่าได้ประมูล ซึ่งท่านก็รับเรื่องไว้แล้ว"นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลต้องการขายข้าวจริงๆ และถ้าไม่มองเรื่องประโยชน์มากเกินไป เอาควรจะแบ่งข้าวออกมาเป็นกองๆ และให้โรงสีที่ทำข้าวถุงหรือคนที่ทำธุรกิจตรงนี้ เพราะคนเหล่านี้พร้อมที่จะซื้อข้าวในราคาที่รัฐบาลน่าจะพึงพอใจ เชื่อว่าภายใน 3-4 เดือนรัฐบาลน่าจะระบายข้าวในสต๊อกได้หมดและผลผลิตข้าวใหม่ที่กำลังออกก็ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องสถานที่เก็บ
"ตอนนี้ผลผลิตใหม่กำลังจะทยอยออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคม เมษายน ทั้งนาปีนาปรังของฤดูกาลก่อนหน้านี้ ทำให้ประเมินจำนวนลำบาก แต่ที่แน่ๆ คือเดือนมีนาคมเรื่อยไปจนถึงเมษายนนี้ข้าวจะเริ่มเยอะขึ้น แล้วตอนนี้คนเกี่ยวก็มาเจอปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ และที่รัฐบาลประกาศราคาชดเชยอ้างอิงไปก่อนหน้านี้ก็ได้ไม่คุ้มทุน เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องหาวิธีแก้ไขโดยด่วน"นายประสิทธิ์ กล่าว
นายประสิทธิ์ กล่าวสำหรับการประมูลรอบแรก มองว่าถ้ารัฐบาลจะดำเนินการต่อไปก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะประมูลข้าวรอบต่อไปก็ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อีกครั้งหนึ่ง และตนเองในฐานะอนุกรรมการของ กขช.อยู่ด้วย ซึ่งจะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 25 ก.พ.นี้ก็คงจะคัดค้านการประมูลข้าว
"แค่ยกเลิกประมูลข้าวราคาข้าวก็จะดีดกลับขึ้นมาแล้ว ส่วนข้าวในสต็อกรออีก 3-4 เดือนไม่มีปัญหาหรอก ประเทศชาติไม่เสียหายหรอก เพราะโรงสีเองก็ออกมาบอกแล้วว่าพร้อมที่จะซื้อในราคาที่ 17,000-18,000 บาท/ตัน และไม่กระทบชาวนาไทย ไม่กระเทือนราคาตลาดด้วย"นายประสิทธิ์ กล่าว
นายประสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า เรื่อง AFTA ไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เพราะเป็นเรื่องของการตรวจสอบข้าวปลอมปนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายประสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการชุมนุมเรียกร้องของชาวนาใน 3 จังหวัดในช่วงนี้ ว่า เกิดจากราคาที่ตกต่ำ เพราะเคยขายข้าวได้ตันละ 9,000-10,000 บาท แต่ตอนนี้ราคาตกลงมาเหลือตันละ 6,800-7,000 บาท ก็ต้องออกมาต่อสู้ให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้
"รัฐบาลจะหาวิธียังไงที่จะแก้ไขเรื่องนี้โดยด่วน ไม่ต้องมีขีดเส้นตายอะไรหรอก แค่ทำโดยด่วน"
นายประสิทธิ์ กล่าวถึงปัญหาภัยแล้งว่า ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการปลูกข้าวเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่พื้นที่ที่เกิดภัยแล้งคืออีสานตอนล่าง แต่พื้นที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคกลาง แต่อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลออกมาเตือนว่าให้หยุดทำนาปรังรอบ 2 ชาวนาเองก็ควรจะทำตามที่รัฐบาลแนะนำ
"ชาวนาเองก็ไม่ควรรอให้รัฐบาลช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว ต้องช่วยเหลือตัวเองบ้าง ยอมรับชาวนาเองก็ไม่ค่อยฟังว่าปัญหาอะไรจะเกิดขึ้น แต่พอทำแล้วเกิดปัญหาก็เรียกร้องให้รัฐบาลช่วย ฉะนั้นถ้าจะทำก็ควรจะพลิกแพลง เช่น ปลูกอะไรอย่างอื่นทดแทนมากกว่าดื้อปลูกข้าวนาปรังต่อไป..ชาวนาเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าเกิดอะไรกับนาตัวเอง"นายประสิทธิ์ กล่าว