สถาบันวิจัยนครหลวงไทย(SCRI) ประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 53 โดยคาดว่ามีโอกาสที่จะฟื้นกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งน่าจะขยายตัวอยู่ในกรอบ 2.0-4.0% โดยที่มีจุดสูงสุดอยู่ในช่วง Q1/53 ที่คาดว่าตัวเลข GDP จะขยายตัวอยู่ที่ระดับโดยประมาณมากกว่า 5.0% ก่อนที่มองว่าแนวโน้มในช่วงถัดไปจะมีแนวโน้มลดอัตราเร่งในการปรับขยายตัวลง SCRI ยังคงให้น้ำหนักค่อนข้างมากกับปัจจัยลบทางด้านเสถียรภาพทางการเมืองที่ยังคงถือได้ว่ามีความเปราะบาง ทั้งในด้านปัญหาของการชุมนุมประท้วง รวมถึงความไม่แน่นอนของอายุของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีความเป็นไปได้ว่ามีโอกาสยุบสภาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งหากไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นและเสถียรภาพทางการเมืองไม่เปลี่ยนแปลง ก็อาจจะต้องปรับประมาณการณ์ GDP เพิ่มขึ้นจากระดับในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้โดยรวมแล้วในช่วงจากนี้ไปจึงยังคงต้องติดตามปัจจัยทางด้านการเมืองอย่างใกล้ชิด ว่าจะส่งผลกระทบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยไปในทิศทางใด
"SCRI ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องปรับ GDP ปี 53 เพิ่มขึ้นจากระดับในปัจจุบัน ถ้าภายในช่วงครึ่งปีแรกไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้น รวมถึงสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ยังคงอยู่ในระดับเสถียรภาพ" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
โดยในภาพรวมยังคงมองว่าเศรษฐกิจปีนี้จะได้รับปัจจัยบวกสำคัญจากระดับการฟื้นตัวของภาคอุปสงค์ในประเทศ ที่มีสัญญาณการขยายตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในด้านของการบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าในช่วง Q1-Q2/53 จะมีทิศทางการขยายตัวดีขึ้นในอัตราเร่งต่อเนื่องจากปลายปี 52 ตามระดับความเชื่อมั่นของประชาชนที่ยังคงมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจทั้งจากในและนอกประเทศที่มีการปรับฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น
ภาคการลงทุนมองว่าภาพโดยรวมมีแนวโน้มที่จะกลับมาขยายตัวจากปี 52 ตามปัจจัยทางด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงระดับฐานที่ต่ำอย่างมากในปีก่อนหน้า ประกอบกับสถานการณ์โดยรวมของการลงทุนของภาคเอกชนจะได้รับปัจจัยบวกทางอ้อมจากจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลตามโครงการไทยเข้มแข็ง โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟฟ้า, โครงการถนนปลอดฝุ่น ฯลฯ ที่คาดว่าจะส่งผลให้เกิดระดับการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวเนื่องของภาคเอกชนตามมาอีกจำนวนมาก เช่น โครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้า, ธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทยในปี 53 ในภาพรวมยังคงอยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่ง โดยเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ ยังคงไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่ชัดเจน อัตราเงินเฟ้อในปีนี้คาดว่ายังไม่มีทิศทางการขยายตัวในอัตราเร่งมากนัก แม้ว่าเงินเฟ้อในช่วง 2-3 เดือนหลังที่ผ่านมาจะปรับตัวเร่งขึ้นอย่างชัดเจน แต่ภาพรวม SCRI ประเมินว่าจะเป็นเพียงในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากระดับการปรับตัวยังคงมีปัจจัยสำคัญมาจากทางด้านระดับฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้าเท่านั้น โดยที่ยังคงไม่มีแรงส่งจากการขยายตัวของภาคอุปสงค์ที่ชัดเจนมากนัก คาดว่าทั้งปีอัตราเงินเฟ้อจะขยายตัว 3.5% ขณะที่อัตราการว่างงานยังทรงตัวในระดับต่ำตามทิศทางการฟื้นตัวของภาคการผลิต
สำหรับเสถียรภาพทางต่างประเทศในนี้ มองว่าจะปรับตัวเป็นบวกต่อเนื่องตามทิศทางเงินสำรองระหว่างประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง รวมไปถึงระดับดุลบัญชีเดินสะพัดที่คาดว่าจะเกินดุลต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ที่มีทิศทางปรับตัวเป็นบวกชัดเจนมากขึ้น