ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร หลังความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีอ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 24, 2010 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ดิ่งลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.68% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3504 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3597 ยูโรต่อดอลลาร์ และดีดตัวขึ้น 0.73% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0838 ฟรังค์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.0759 ฟรังค์ต่อดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.43% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.5415 ปอนด์ต่อดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.5481 ปอนด์ต่อดอลลาร์ แต่ดิ่งลง 1.00% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 90.210 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 91.120 เยนต่อดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.18% แตะที่ 0.8895 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.9001 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.33% 1แตะที่ 0.6917 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7010 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากสถาบัน Ifo รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนก.พ.ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 95.2 จุด จากระดับ 95.8 จุดในเดือนม.ค. เนื่องจากอุณหภูมิที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเฉลี่ยและหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักได้ส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างและยอดค้าปลีก

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐ รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ดิ่งลงสู่ระดับ 46 จุด จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 56.5 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 55 จุด บ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีความวิตกกังวลเรื่องตัวเลขจ้างงานที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้นักลงทุนยังติดตามดูการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นต้นประจำไตรมาส 4 ปี 2552 และรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ด้านการเงินของกรีซ โดยล่าสุดมีรายงานว่าทีมผู้ตรวจสอบบัญชีของคณะกรรมาธิการยุโรป ธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของทางการกรีซ โดยประเด็นหลักที่คาดว่าจะมีการปรึกษาหารือกันที่กระทรวงการคลังของกรีซในครั้งนี้คือการติดตามการใช้มาตรการสร้างเสถียรภาพและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกรีซ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ