(เพิ่มเติม) ศาลปกครองให้ 7 โครงการมาบตาพุดเดินหน้าก่อสร้าง-ทดลองเครื่องจักรตามคำขอ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 24, 2010 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลปกครองกลางมีคำสั่งในวันนี้ให้เจ้าของโครงการหรือกิจกรรมเฉพาะ 7 รายดำเนินการได้ตามคำร้อง คือ ก่อสร้างโครงการส่วนที่เหลือต่อไปจนแล้วเสร็จติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ ทดลองระบบที่เกี่ยวข้อง และทดลองเดินเครื่องจักร โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแต่ละโครงการให้เป็นไปตามรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

"ศาลจึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งแปดอนุญาตให้เจ้าของโครงการหรือกิจกรรมเฉพาะ 7 รายข้างต้นดำเนินการได้ตามคำร้อง" คำสั่งศาลปกครองกลาง ระบุ

ทั้งนี้ โครงการทั้ง 7 โครงการ อยู่ใน 11 โครงการหรือกิจกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่คณะตุลาการศาลปกครองได้ลงพื้นที่ตรวจเผชิญสืบข้อเท็จจริงหลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ให้ระงับการก่อสร้างไว้ชั่วคราว

สำหรับ 7 โครงการดังกล่าว ได้แก่ 1.โครงการขยายท่าเทียบเรือขนถ่ายสารปิโตรเคมี และคลังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล จำกัด, 2.โครงการผลิตเมธิลเมตาคลีเลต โรงงานที่ 2 ของบริษัท ไทยเอ็มเอ็มเอ จำกัด, 3.โครงการขยายกำลังการผลิตโพลิเอททีลีน ของบริษัท สยามโพลิเอททีลีน จำกัด,

4.โครงการผลิตโพลิเอททีลีนของบริษัท สยามเลเทกซ์สังเคราะห์ จำกัด, 5 โครงการผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอททีลีนของบริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด, 6.โครงการบีสฟีนอลเอของบริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด และ 7.โครงการผลิตเหล็กส่วนขยายของบริษัท บี อาร์ พี สตีล จำกัด

หลังจากคณะตุลาการศาลปกครองได้ลงพื้นที่ตรวจเผชิญสืบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ศาลเคยมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาจึงมีเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะรับคำร้องไว้พิจารณา

โดยเห็นว่า โครงการหรือกิจกรรมดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการตามคำร้องที่กล่าวมาจะยังไม่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนในชุมชน ซึ่งศาลอาศัยเป็นหลักในการมีคำสั่งเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาในคดีนี้

และเมื่อคำนึงถึงความรับผิดชอบของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นแก่การบริหารงานของรัฐ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย อันตราย และความไม่ปลอดภัยต่อผู้ร้อง บุคคลอื่น และต่อสาธารณะ

"เจ้าของโครงการหรือกิจกรรมได้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งแปดอย่างเคร่งครัด แต่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงได้จะต้องดำเนินการก่อสร้างอาคาร และติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ของโครงการหรือกิจกรรมต่อไป ซึ่งหากไม่ดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงและเสียหายเป็นอันมากและยากที่จะเยียวยาความเสียหายในภายหลัง เนื่องจากงานก่อสร้างที่ค้างอยู่" คำสั่งศาลปกครองกลาง ระบุ

คดีนี้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและประชาชนชาวมาบตาพุดรวม 43 ราย ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ, เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, รมว.อุตสาหกรรม, รมว.พลังงาน, รมว.คมนาคม, รมว.สาธารณสุข และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ซึ่งต่อมาศาลปกครองกลางมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราวให้สั่งระงับทั้ง 76 โครงการไว้เป็นการชั่วคราว และมีการอุทธรณ์คำสั่งเรื่อยมาซึ่งศาลปกครองกลางได้อนุญาตให้เจ้าของโครงการหรือกิจกรรมดำเนินการต่อไปก่อนหน้านี้ 12 โครงการ ทำให้เหลือโครงการที่ยังถูกสั่งชะลออยู่จำนวน 57 โครงการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ