นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในช่วงไตรมาส 1/53 มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าไตรมาส 4/52 หรือมากกว่าระดับ 5.8% แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับปัจจัยที่การเมืองมีเสถียรภาพ และไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น
"(GDP ไตรมาส 1/53)มีโอกาสโตได้มากกว่า 5.8% หากการเมืองเสถียร หรือไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง" ผู้อำนวยการ สศค.ระบุ
พร้อมกันนี้ ยังประเมินว่า GDP ในปี 53 จะมีโอกาสขยายตัวได้มากกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้าที่ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.0-4.0% โดย สศค.จะแถลงปรับประมาณการณ์ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.53
นายสาธิต ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่มีมีผลต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ และปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ส่วนปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทอาจจะมีผลบ้างแต่ไม่มาก เพราะเชื่อว่าไม่เกินวิสัยที่จะสามารถบริหารจัดการได้
ส่วนภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4/52 ที่โต 5.8% นั้น ถือว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน และถือว่าเป็นการเติบโตที่น่าพอใจและมีเสถียรภาพ
อนึ่ง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้ปรับประมาณการณ์ GDP ในปีนี้ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3.5-4.5% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 3.0-4.0% เนื่องจากได้รับแรงส่งที่ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก