ศาสตราจารย์จาง เถียกัง จากมหาวิทยาลัย Central University of Finance and Economics มองว่า โอกาสที่จีนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 1 ปีนี้นั้นมีน้อย เมื่อพิจารณาจากการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนม.ค. และราคาธัญพืชที่ร่วงลงในตลาดต่างประเทศ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนม.ค.ขยายตัว 1.5% ซึ่งลดลงจากระดับ 1.9% ในเดือนธ.ค. โดยราคาเนื้อสัตว์ใน 36 เมืองของจีนร่วงลง ขณะที่ราคาอาหารคิดเป็นสัดส่วน 34% ของค่าเฉลี่ย CPI
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมา ราคาข้าวสาลีและข้าวโพดในตลาดโลกอ่อนตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศรายใหญ่ๆว่าจะคุมเข้มสภาพคล่อง ซึ่งทำให้เป็นที่คาดการณ์ว่า ราคาผลผลิตธัญพืชในต่างประเทศจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไปในระยะสั้น
นายจางกล่าวต่อไปว่า เงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมา และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกลงเล็กน้อยในตลาดต่างประเทศเป็นปัจจัยที่ช่วยคลี่คลายแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในจีน จีนจึงยังไม่มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยก่อนประเทศมหาอำนาจ เนื่องจากประเทศเหล่านี้ยังมีอัตราการว่างงานสูง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ยังล้าหลังจีนอยู่ ประเทศมหาอำนาจทั้งหลายคงจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้