มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยว่าอาจปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นหลังจากปี 2553 ถ้ารัฐบาลไม่สามารถหาแผนการที่น่าเชื่อถือมาใช้ในการฟื้นฟูสถานะการคลัง และหากหนี้สาธารณะหรือยอดขาดดุลงบประมาณยังคงอยู่ในระดับสูงดังเช่นในปัจจุบันนี้
โทมัส เบิร์น รองประธานอาวุโสของมูดีส์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบอันดับเครดิตของประเทศในเอเชีย กล่าวที่กรุงโตเกียวในวันนี้ว่า มูดีส์กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิดว่า รัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งนำโดยพรรคดีพีเจจะสามารถจัดทำแผนปฏิรูปการคลังในระยะกลางที่มีประสิทธิภาพได้หรือไม่ และจะรอดูกรอบเวลาในการควบคุมหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นมีกำหนดการที่จะเปิดเผยแผนการดังกล่าวในเดือนมิ.ย.นี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของมูดีส์กล่าวว่า แนวโน้มเครดิตตราสารหนี้สกุลเงินเยนของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ระดับ Aa2 ในปัจจุบัน ยังคงมีเสถียรภาพ หลังจากที่เพิ่งได้รับการปรับขึ้นจากระดับ Aa3 ในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากมองว่าตลาดภายในประเทศของญี่ปุ่นสามารถดูดซับหนี้ของรัฐบาลได้เกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือคู่แข่งของมูดีส์ อย่าง สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ทบทวนแนวโน้มเครดิตตราสารหนี้ของญี่ปุ่นจากมีเสถียรภาพ สู่ เชิงลบ ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการลดอันดับเครดิตลง เนื่องจากการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมหาศาลของรัฐบาล ประกอบกับการขาดนโยบายที่จะปรับปรุงสถานะการคลังและกระตุ้นการขยายตัว โดยถือเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ S&P ลดอันดับเครดิตหรือแนวโน้มเครดิตตราสารหนี้ของรัฐบาลญี่ปุ่น