ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ช้าลง เนื่องจากพายุหิมะได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วภูมิภาคอีสต์โคสท์ตลอดเดือนก.พ.
"เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวค่อนข้างช้าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บริษัทเอกชนขาดความเชื่อมั่นในการจ้างงาน นอกจากนี้ พายุหิมะที่โหมกระหน่ำตลอดแนวอีสต์โคสท์ยังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือนก.พ.ด้วย" เฟดกล่าวในรายงาน
ทั้งนี้ เฟดระบุว่า เศรษฐกิจของ 9 ใน 12 เขตของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ในเขตริชมอนด์ ซึ่งรวมถึงแมรีแลนด์ เวอร์จิเนีย และแคโรลินาส ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งทำให้ภาวะเศรษฐกิจซบเซาลงอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เฟดกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930
รายงานของเฟดยังกล่าวด้วยว่า แม้การเลย์ออฟพนักงานในภาคเอกชนเริ่มลดน้อยลง แต่ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงซบเซา โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ลดลง 20,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนม.ค.ยืนอยู่ที่ระดับ 9.7% ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.มีแนวโน้มลดลงอีก 20,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.8%
ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวขึ้นในหลายภูมิภาคของประเทศ แต่ยอดขายของกลุ่มบริษัทค้าปลีกในเขตริชมอนด์ทรุดตัวลงอย่างหนักในเดือนก.พ.เพราะถูกกระทบจากพายุหิมะ ขณะที่ธุรกิจการค้าในเขตฟิลาเดลเฟียดีดตัวขึ้น ส่วนกิจกรรมการท่องเที่ยวของเขตนิวยอร์ก ซิตี้ และธุรกิจค้าปลีกในเขตฟิลาเดลเฟีย ฟื้นตัวขึ้นก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์พายุหิมะถล่ม แต่ตลอดเดือนก.พ.กิจกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีกของทั้งสองเขตได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุหิมะ
เฟดระบุว่า ภาคการผลิตในพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฮเทค ยานยนต์ และโลหะ แต่โรงงานผลิตในเขตฟิลาเดียเฟียและริชมอนด์ เป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากอิทธิพลของพายุหิมะ ส่วนดีมานด์ในภาคบริการโดยทั่วไปค่อนข้างดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจด้านสุขภาพและเทคโนโลยีสารสนเทศ
นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เลวร้ายยังส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้าน ยอดขายยานต์ และธุรกิจการสร้างบ้านในหลายภูมิภาค รวมถึงนิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และแอตแลนต้า
ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16 มี.ค.นี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน