นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติไม่ต่ออายุมาตรการภาษีภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น กรมธนารักษ์ได้เร่งดำเนินการประเมินราคาทุนทรัพย์ โดยเฉพาะอาคารชุดที่มีผู้ประกอบการรายใหม่จำนวนมากยื่นขอจดทะเบียนไว้กับกรมที่ดิน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับและช่วยเหลือผู้ประกอบการตลอดจนผู้ซื้อที่จะได้รับผลกระทบ
สำหรับการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด ขณะนี้มีผู้ประกอบการยื่นคำขอให้ประเมินราคาอาคารชุดแล้ว 36 โครงการ ได้แก่ อาคารชุดในเขตกรุงเทพฯ 7 โครงการ และต่างจังหวัดอีก 29 โครงการ ดังนั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้ซื้อห้องชุดให้ได้รับประโยชน์มากที่สุดทั้งในเรื่องค่าโอน ค่าจดจำนอง และภาษีธุรกิจเฉพาะ กรมธนารักษ์จึงมีมาตรการเร่งด่วน โดยจะนำผลการประเมินราคาทุนทรัพย์ห้องชุดเสนอต่อคณะอนุกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ประจำจังหวัดต่างๆ และในเขตกรุงเทพฯ จากนั้นจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ เพื่อให้ความเห็นชอบและสามารถประกาศใช้บัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดที่ขอจดทะเบียนใหม่ได้ภายในวันที่ 16 มี.ค.53
"การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และประชาชนผู้ซื้อห้องชุดได้รับผลประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกับกรมที่ดินก่อนที่จะสิ้นสุดในวันที่ 26 มีนาคม" อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุ