สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นได้กระตุ้นนักลงทุนให้เทขายทำกำไร โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 1.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจขยายระยะเวลาการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,133.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 10.20 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,125.90-1,142.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 17.176 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 15.30 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,583.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.00 เซนต์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 463.20 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 12.70 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จาก Prospector Asset Management ในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐกล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นถึง 1.1% เมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร อันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สินของกรีซ จึงทำให้นักลงทุนแห่ถือครองดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และหากดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นอีก ก็จะยิ่งฉุดสัญญาทองคำร่วงลงด้วย
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำที่ระดับ 1,115.511 ตัน ณ วันที่ 3 มี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.955 ตัน จากระดับ 1,111.556 ตันของเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา