นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนกล่าวในการประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนในวันนี้ว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 8% ในปีนี้ โดยปัจจัยที่ทำให้นายเหวินกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจไว้ที่ 8% ก็เพราะต้องการสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนมีการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ
ขณะเดียวกันนายเหวินคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจ จะอยู่ที่ระดับ 3% ในปีนี้ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจในปีนี้จะดีกว่าในปีที่แล้ว แม้จีนอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆที่มีความซับซ้อนมากขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ นายเหวินกล่าวว่า ปี 2553 จะเป็นปีที่สำคัญและเป็นปีที่ท้าทายสำหรับจีน เนื่องจากจีนยังต้องรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินโลก ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพและผลัดดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่
นายปีเตอร์ เทรบิทช์ นักวิเคราะห์จากฮังกาเรียน นิวส์ เอเจนซี คอร์ปอเรชั่น คาดว่า รัฐบาลจีนจะสามารถผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 8% ในปีนี้ พร้อมกับแนะนำว่ารัฐบาลจีนไม่ควรจดจ่ออยู่กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพียงด้านเดียว แต่ควรให้ความสนใจต่อคุณภาพของการขยายตัวด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2552 ของจีนขยายตัว 8.7% สูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 8% ซึ่งรัฐบาลกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นปี 2552 โดยเศรษฐกิจจีนขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ