จีนเตรียมปรับลดงบประมาณการใช้จ่ายด้านระบบสาธารณูปโภค และหันไปเพิ่มงบประมาณด้านการดูแลสุขภาพและสวัสดิการสังคม พร้อมออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคมากขึ้น นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนกล่าวในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรจีนในวันนี้ว่า เศรษฐกิจภายในประเทศยังคงเผชิญกับปัญหาที่เรื้อรังยาวนาน เช่นเดียวกับสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นภาคการเงินและการขยายวงเงินสินเชื่อที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับผลกระทบจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจโลก โดยในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาจีนมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 10.7% ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปล่อยเงินกู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
การประกาศนโยบายเรื่องงบประมาณของจีนในวันนี้ ประกอบด้วยการเพิ่มงบประมาณด้านการดูแลสุขภาพและสวัสดิการสังคม รวมถึงการเพิ่มวงเงินบำนาญ ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของยอดใช้จ่ายผู้บริโภคและช่วยลดการพึ่งพาการส่งออกได้
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ว่า จีนจำเป็นต้องกำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเพื่อรักษาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และกระตุ้นการจ้างงานที่มากพอเพื่อรักษาเสถียรภาพทางสังคม นอกจากนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องหามาตรการแก้ปัญหาการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนเพื่อป้องกันปัญหาความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ